สวัสดีค่ะ คุณ ffffern, อาการเจียน อาจเกิดจากสาเหตุต่างๆ เช่น 1. อาหารเป็นพิษ ซึ่งอาจเนื่องได้หลายวัน โดยเฉพาะหากดูแลไม่ถูกต้อง เช่น ยังคงทานอาหารที่ไม่สะอาด ทานอาหารที่ย่อยยาก ทานอาหารปริมาณมากไป ทานอาหารรสจัด ดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ หรือชากาแฟ น้ำอัดลมอัดแก๊สต่างๆ เป็นต้น 2. การมีกระเพาะอาหารอักเสบ มีแผลในกระเพาะอาหาร กรดไหลย้อน แต่จะมีอาการอื่นๆ ร่วมอีก เช่น ปวดจุกแน่นลิ้นปี่ หรือแสบร้อนกลางอก เรอเปรี้ยว ระคายเคืองคอ เป็นต้น 3. ผลข้างเคียงจากการทานยาบางชนิด เช่น ยาคุมกำเนิด ยาปฏิชีวนะ เป็นต้น 4. มีความเครียด วิตกกังวล นอนไม่หลับ 5. เกิดจากการตั้งครรภ์ 6. หากมีอาการเวียนหัวร่วมด้วย อาจเกิดจาก โรคตะกอนหินปูนในหูชั้นในหลุด โรคน้ำในหูไม่เท่ากัน เป็นต้น ในเบื้องต้น เช่น ควรดื่มน้ำเปล่ามากๆ โดยการจิบน้ำบ่อยๆ ไม่ควรดื่มรวดเดียว เพราะอาจทำให้คลื่นไส้และอาเจียนตามมาได้ ทานเฉพาะอาหารอ่อนย่อยง่าย รสจืด ไม่เผ็ด ไม่เปรี้ยว ไม่ทานอาหารที่มีไขมันสูง หลีกเลี่ยงอาหารที่มีความเป็นกรด เช่น น้ำส้ม น้ำมะนาว เป็นต้น รวมถึงงดเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ ชา กาแฟ น้ำอัดลม และอาจทานยาแก้อาเจียน เช่น metoclopramide (เมโทโคลพราไมด์) เป็นต้น แต่หากอาการอาเจียนยังคงไม่หายไป ก็ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจรักษาค่ะ
โรคเครียดลงกระเพาะ มักเกิดกับกลุ่มคนวัยทำงานที่ทำงานหนักจนไม่มีเวลาพักผ่อน จนทำให้ร่างกายอ่อนล้ามีความเครียดและความวิตกกังวล ซึ่งสามารถส่งผลกระทบต่อการทำงานของร่างกายในส่วนต่าง ๆ ได้ การที่เรารู้ทันโรค มีวิธีรับมือและป้องกันรักษาอย่างตรงจุด ทำให้เราห่างไกลจากโรคเครียดได้ไม่ยาก สำหรับคนที่มีภาวะเครียดจากการทำงานหรืออาจกังวลว่าจะเป็นโรคเครียดลงกระเพาะ บทความนี้ เรามีความรู้และวิธีป้องกันรักษามาแนะนำ โรคเครียดลงกระเพาะ คืออะไร? ความเครียดที่เกิดจากการทำงาน หรือเกิดจากการใช้ชีวิตประจำวัน หากเกิดขึ้นบ่อย ๆ อาจส่งผลต่อสุขภาพทำให้เกิดโรคภัยต่าง ๆ โรคเครียดลงกระเพาะ เป็นอาการของโรคที่มีผลมาจากความเครียด เมื่อเกิดความเครียดมาก ๆ ทำให้ฮอร์โมนในร่างกายความแปรปรวนและเส้นเลือดบีบตัวทำให้เลือดไหลเวียนไม่สะดวก ซึ่งก็เป็นผลให้กระเพาะอาหารหลั่งน้ำย่อยออกมามากกว่าปกติจนทำให้กระเพาะเป็นแผลและลำไส้บีบตัวอย่างรุนแรง นอกจากทำให้ผู้ป่วยทุกข์ทรมานจากอาการเจ็บปวดยังอาจเกิดโรคแทรกซ้อนที่เป็นอันตรายร้านแรงได้ ความเครียดส่งผลต่อระบบย่อยอาหารอย่างไร?
2050 จะมีผู้เสียชีวิตจากเชื้อดื้อยาทั่วโลกปีละ 10 ล้านคน อ่านบทความ อันตรายจาก "ท้องผูก" ที่ไม่ควรมองข้าม อะไรที่จะช่วยลดโรค ลดการใช้ยาปฏิชีวนะได้?
รับประทานโปรไบโอติกส์ แก้อาการท้องอืด โปรไบโอติกส์ (Probiotics) คือจุลินทรีย์ชนิดดีที่อาศัยอยู่ในลำไส้ของเรา ซึ่งจะช่วยปรับสมดุลภายในทางเดินอาหาร ป้องกันไม่ให้เชื้อโรคอื่นๆ เข้ามารุกราน ลดอาการท้องผูก-ท้องเสีย และยังมีส่วนช่วยในการย่อยอาหารด้วย เราสามารถรับโปรไบโอติกส์ได้จากอาหารจำพวกนมเปรี้ยว โยเกิร์ต ซึ่งหากทานเป็นประจำก็จะช่วยแก้ปัญหาท้องอืดในระยะยาวได้ 5. นวดกดจุดลดแน่นท้อง การนวดกดจุด เป็นศาสตร์การแพทย์โบราณที่สามารถบรรเทาภาวะอาหารไม่ย่อย หรือการดูดซึมผิดปกติได้ โดยผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่าจุดที่กดแล้วจะช่วยแก้ท้องอืดได้ ได้แก่ "จุดจงหว่าน" ที่อยู่กึ่งกลางลำตัวตรงหน้าท้อง เหนือสะดือขึ้นมาประมาณ 4 นิ้ว "จุดจู๋ซานหลี" ที่อยู่ตรงหน้าแข้งทั้ง 2 ข้าง ใต้สะบ้าหัวเข่าประมาณ 3 นิ้ว และ "จุดเน่ยกวน" ที่อยู่ตรงแขนด้านใน ใต้เส้นข้อมือประมาณ 2 นิ้ว การนวดคลึงเบาๆ ที่จุดเหล่านี้เป็นเวลา 3 – 5 นาทีหลังกินอาหาร จะช่วยลดอาการท้องอืดจุกเสียดแน่นได้เป็นอย่างดี 6.
0 2265 7777 ให้คะแนนบทความนี้ [คะแนนบทความนี้: 2. 8]
ปรับเปลี่ยนนิสัยการกินใหม่ แก้อาการท้องอืด หนึ่งในวิธีง่ายๆ และได้ผลดี ก็คือการเปลี่ยนนิสัยการกินที่ไม่ดีเสียใหม่ เช่น กินอาหารให้ช้าลง หลีกเลี่ยงการกินเยอะจนอิ่มเกินไป งดอาหารและเครื่องดื่มที่มีแก๊สเยอะ อย่างน้ำอัดลม เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ของหมักดอง และผักตระกูลกะหล่ำ รวมถึงอย่านอนทันทีหลังกินอิ่มใหม่ๆ วิธีเหล่านี้จะช่วยป้องกันอาหารไม่ย่อยซึ่งเป็นที่มาของปัญหาท้องอืดได้ 2. กินผักผลไม้ที่ช่วยคลายท้องอืด ผักและผลไม้บางชนิดมีสรรพคุณที่ช่วยลดอาการท้องอืดท้องเฟ้อหลังเรากินอาหารมื้อใหญ่ๆ ได้ เช่น สับปะรด และมะละกอสุก ที่มีเอนไซม์ช่วยย่อยโปรตีนอยู่ตามธรรมชาติ จึงช่วยแก้อาการแน่นท้องเวลาเรารับประทานเนื้อสัตว์เยอะๆ รวมถึงผลไม้ที่มีโพแทสเซียมสูง อย่างมะเขือเทศ และกล้วยหอม ก็ช่วยลดอาการบวมน้ำและจุกแน่นในท้องได้ดีเช่นกัน 3. เครื่องดื่มบางอย่างช่วยได้ ใครที่มีปัญหาจุกเสียดอาหารไม่ย่อยหลังทานข้าว อาจลองงดชา-กาแฟเย็น แล้วเปลี่ยนมาล้างปากด้วยน้ำมะนาว น้ำขิง หรือชาคาโมมายล์อุ่นๆ แทน เพราะเครื่องดื่มเหล่านี้มีสรรพคุณเป็นยาระบาย ช่วยขับลม กระตุ้นระบบย่อยอาหาร แถมยังแก้อาการท้องอืดท้องเฟ้อได้รวดเร็วทันใจอีกด้วย 4.
เจาะลึกวิธีรับมือโรคหลอดเลือดหัวใจ
สมัครสมาชิกนิตยสารเทคโนโลยีชาวบ้าน, มติชนสุดสัปดาห์ และศิลปวัฒนธรรม ลดราคาทันที 40% ตั้งแต่วันนี้ – 30 มิ. ย. 63 เท่านั้น! คลิกดูรายละเอียดที่นี่
framingtonco.com, 2024 | Sitemap